ข่าวอาชญากรรม

ตร.เลยทำลายอาวุธปืนของกลางกว่า 281กระบอก พร้อมท่อไอเสียดัดแปลง 500 ท่อ

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 64 ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองเลย พ.ต.อ. ภุชงค์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ประธานในพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง และท่อไอเสียรถดัดแปลงประจำปี พ.ศ.2564  หลังจากการตรวจยึดมาได้ตลอดทั้งปี พ.ศ. 2563 ซึ่งทั้งอาวุธปืน และท่อไอเสียดัดแปลงที่ได้ตรวจยึดได้จากกลุ่มวัยรุ่นที่ได้ออกมาแข่งซิ่งรถจักรยานยนต์บนท้องถนน

ว่าที่ พ.ต.อ. ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเลย กล่าวว่า การทำลายอาวุธปืนของกลางที่ศาลมีคำพิพากษาสั่งริบให้ตกเป็นของแผ่นดิน และ ท่อไอเสียรถดัดแปลงที่ผิดกฎหมาย ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดเลย ที่ 85/2564 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ให้สถานีตำรวจภูธรเมืองเลย ดำเนินการทำลายอาวุธปืนของกลาง ที่ศาลมีคำพิพากษาสั่งริบให้ตกเป็นของแผ่นดิน ประจำปี2564 ซึ่งคัดแยกประเภทได้ ดังนี้ 1.อาวุธปืนแก๊ปสั้น จำนวน 76 กระบอก 2. อาวุธปีนแก๊ปยาว จำนวน 154 กระบอก 3. อาวุธปืนอัดลม(ไทยประดิษฐ์) จำนวน 17 กระบอก 4.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนดัดแปลง) จำนวน 27 กระบอก) 5. อาวุธปืนลูกซองยาว (ไทยประดิษฐ์จำนวน 7 กระบอก) รวมทั้งสิ้น จำนวน 281 กระบอก

สถานีตำรวจภูธรเมืองเลย จึงได้ดำเนินการทำลายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง ตามขั้นตอน และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 323/2563 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563 และพร้อมกันนี้ได้ทำลายท่อไอเสียรถดัดแปลงเสียงดังที่ตรวจยึดมาโดยผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนรำคราญให้กับประชาชน จำนวน 500 ท่อ ทำให้เสียหาย สิ้นสภาพไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป

และในส่วนกลุ่มวัยรุ่นได้ดัดแปลงเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเลย ทั้งงานจราจร ชุดสายตรวจ พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน ได้ออกดำเนินการกวดขัน จับกุม ปราบปราม และพบผู้กระทำความผิดในเรื่องดังกล่าว จากการตกแต่งเปลี่ยนแปลงสภาพรถจักรยานยนต์ เช่นการเปลี่ยนสีของไฟหน้า ไฟเบรก รวมถึงการนำท่อไอเสียที่ผิดกฎหมาย ก่อให้เกิดเสียงดังที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสร้างความรำคาญ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ผู้ใช้รถ และประชาชนที่กำลังพักผ่อน ทั้งนี้สภ.เมืองเลย ยังได้มีมาตรการการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการเฝ้าระวัง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อให้ผู้กระทำผิดกลับมากระทำผิดซ้ำอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น - Facebook