เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 64 ที่ศาลากลางจังหวัดเลย นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นพ.ยอดลักษ์ สัยลังกา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ร่วมกันแถลงสถานการณ์ พร้อมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั้ง 14 อำเภอ ในวันที่ 7 มิ.ย. พร้อมวางแนวทางการจัดสรรการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะผู้ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม ยืนยันไปฉีดทุกคน
นายชัยธวัช เนียมศิริ เผยว่า ในส่วนการบริหารวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยขณะนี้จังหวัดเลยได้รับการจัดสรรวัคซีนมาบางส่วนแล้ว โดยจะเริ่มฉีดให้กับชาวจังหวัดเลยในวันที่ 7 มิถุนายน ส่วนกรณีที่มีข่าวสารที่มีการคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ การยกเลิกการจองวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อม ยืนยันว่า ไม่มีการยกเลิกการจองฉีดวัคซีนของกลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม แต่เป็นการยกเลิกนัดหมายเก่า เพื่อเลื่อนนัดให้มาฉีดเร็วขึ้นในวันที่ 7-8 มิถุนายน นี้
ด้านนายแพทย์ยอดลักษ์ สัยลังกา ได้กล่าวว่า จังหวัดเลย จะได้รับการจัดสรรวัคซีนในเดือนมิถุนายนนี้หลายรอบ โดยจะค่อยทยอยมาเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้จังหวัดเลยได้รับการจัดสรรวัคซีนทั้งซิโนแวค และแอสตราเซนิกามาแล้วจำนวนหนึ่ง ดังนั้น ในการบริหารจัดการวัคซีนของจังหวัดในขณะนี้ คือ ใครที่จองคิวฉีดวัคซีนผ่านไลน์และแอพฯหมอพร้อม จะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน โดยจากฐานข้อมูลพบว่ามีผู้ลงทะเบียนเองผ่านระบบหมอพร้อม ทั้งหมด 2,301 คน เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังทั้งหมด โดยกลุ่มนี้เดิมที่ได้นัดหมายตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน เป็นต้นไป บางรายอาจได้รับนัดหมายกลางเดือน หรือปลายเดือน
ซึ่งปัจจุบันจังหวัดเลยได้รับจัดสรรวัคซีนมากกว่าจำนวนที่จองผ่านระบบหมอพร้อม ดังนั้นจึงบริหารจัดการใหม่ โดยการยกเลิกนัด และนัดมาใหม่ โดยให้ทั้งหมดคนจังหวัดเลยที่ลงทะเบียนกับระบบหมอพร้อมจำนวน 2,301 คน มาฉีดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7-8 มิถุนายน จึงทำให้บางรายจะได้รับการฉีดวัคซีนเร็วกว่ากำหนดเดิม ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ต้องการรับวัคซีน สำหรับขั้นตอน ทุกคนจะได้รับการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากในระบบมีเบอร์ติดอยู่แล้ว
แต่หากผู้ใดไม่ได้รับการติดต่อ สามารถติดต่อกลับไปยังโรงพยาบาลที่นัดจองไปฉีดวัคซีนได้ ส่วนกลุ่มอื่นๆที่จองผ่านระบบ อสม. รพ.สต หรือ สาธารณสุขจังหวัด ในพื้นที่แต่ละอำเภอมีการจัดการคิวอย่างเป็นระบบแล้ว ซึ่งจะมีการประสานข้อมูลกันทุกครั้ง หากได้รับการจัดสรรวัคซีนมา ยืนยันมีวัคซีนทยอยมาต่อเนื่อง และทางจังหวัดมุ่งเน้นให้ประชาชนได้รับเข็มที่ 1 ทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 18-59 ปี อย่างน้อยร้อยละ 70 ของประชากร ภายใน 30 กันยายนนี้ อย่างแน่นอน
