ข่าวบ้านเมือง

แจ้งจับพนักงานทำงานทีวีช่องดัง กลับจาก กทม.ไม่ยอมกักตัว นอภ.วังสะพุงสั่งดำเนินคดีทันที

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 64 นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอวังสะพุง ได้มอบหมายให้นายวีระพล ใจดี ปลัดอำเภอวังสะพุง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 กับ ร.ต.อ.จักรชัย จันนา ร้อยเวรสอบสวน สภ.วังสะพุง จ.เลย โดยแจ้งความร้องทุกข์กับ เพศหญิงเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้เข้ามาอยู่บ้านเลขที่ 423 หมู่ 6 ตำบลปากปวน อ.วังสะพุง แต่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามประกาศจังหวัดเลย ลงวันที่ 6 สิงหาคม 64

นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ เผยว่า ก่อนที่จะตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว ซึ่งได้เดินทางจากกรุงเทพฯมาด้วยรถส่วนตัว และเข้ามาในพื้นที่อำเภอวังสะพุง ในพื้นที่ หมู่ 6 ตำบลปากปวน อ.วังสะพุง ไม่มารายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ (ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อสม) หรือ แจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่เดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดเลย

ในการนี้เริ่มแรกผู้ใหญ่บ้าน และคณะได้อำนวยความสะดวกแก่ บุคคลดังกล่าวโดยได้เข้าพบที่บ้าน เพื่อให้บริการในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรการฯตามประกาศจังหวัดเลย และขอให้บุคคลดังกล่าวแสดงผลการตรวจโควิด 19 ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง หรือหากยังไม่ตรวจก็ขอให้เข้ารับการตรวจโรคด้วยชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit หรือวิธี RT-PCR แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือและความยินยอม และขอให้กักตัวภายในบ้าน 14 วัน พร้อมกับขอให้เซ็นเอกสารยินยอมในการกักตัว แต่บุคคลดังกล่าวกลับมีพฤติกรรมฝ่าฝืน ดื้อดึง ไม่รับฟัง และไม่ยอมกักตัวและไม่ยอมเซ็นเอกสารใดๆ ทางผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 จึงได้แจ้งต่ออำเภอวังสะพุง จึงได้ส่งให้ปลัดอำเภอร่วมกับคณะทำงานหมู่บ้านไปชี้แจง และทำความเข้าใจ แก่บุคคลดังกล่าว ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตามมาตรการของจังหวัดเลย ตามประกาศจังหวัดเลย แต่บุคคลดังกล่าว ก็ไม่ยินยอมรับรู้หรือรับปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัดเลยตามประกาศฯ หรือรับฟังปลัดอำเภอวังสะพุงแนะนำแต่อย่างใด

ทางอำเภอวังสะพุงพิจารณาข้อมูลข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า บุคคลดังกล่าว มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามประกาศจังหวัดเลย ลงวันที่ 6 สิงหาคม 64 จึงได้แจ้งความดำเนินคดีแก่บุคคลดังกล่าว และเท่าที่ทราบว่า ทำงานอยู่ในสถานนีโทรทัศน์สาธารณะ ช่องหนึ่งที่รัฐบาลให้งบประมาณดำเนินการ ในความผิดฐานฝ่าฝืนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งระบุเป็นความผิดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

แสดงความคิดเห็น - Facebook