เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณร้านวงค์คำไหล ถ.เลย-เชียงคาน จ.เลย ได้เปิดตลาดนัด ซื้อขายแลกเปลี่ยน จำหน่ายขายไม้ด่างไม้ประดับ ไม้ฟอกอากาศต่างๆ อาธิ พลูฉลุด่าง ตระกูลมอสสเตร่าต่างๆ และตระกูลไม้ด่างประเภทพิโลเดนดรอน รวมทั้งบอนสี แคคตัส กล้วยด่าง ต่างได้รับความสนใจกับผู้ที่หลงไหลของตระกูลพืชไม้ด่างต่างๆ ที่กำลังได้รับความนิยม ทำให้เงินสะพัดการซื้อขายภายในตลาดแต่ละวันไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท
นายสุรชัย อุทาทิพย์ หรือเหน่ง วงค์คำไหล เจ้าของตลาดนัดไม้ด่างไทเลย เผยว่า จังหวัดเลยได้จัดตลาดนัดไม้ด่าง ชื่อว่าตลาดนัดไม้ด่างไทเลย โดยจะมีการจัดนัดพบคนรักต้นไม้ประเภทไม้ด่าง ซึ่งมาจากในหลายจังหวัดในแถบอีสาน ทั้งอุดรธานี ขอนแก่น หนองบัวลำภู สกลนคร จะมีการนัดพบกันเดือนละ 2 ครั้ง โดยจะนำต้นไม้ด่างของตนเองเอามาโชว์ หรือจำหน่าย พร้อมกับแลกเปลี่ยนพันธุ์ต้นไม้
หลังจากที่เราเคยจัดมาก่อนที่โควิดจะระบาดหนัก พอมาช่วงนี้โควิด 19 ได้มีการคลี่คลายลง จึงได้นัดกันมาจัดใหม่แต่ก็ยังได้รับความสนใจ กับผู้รักต้นไม้ด่าง เป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทำให้เปิดตลาดคึกคักตลอดทั้งวัน ทำให้การซื้อขายในแต่ละครั้งมีเงินหมุนเวียนในแต่ละวันอยู่ในหลัก 7 ถึงหลัก 8 หรือไม่น้อยกว่า 10 ล้านกว่าต่อวัน ซึ่งต้นไม้ที่มาร่วมจะมีทุกประเภทเช่นว่า เป็นสายพิโลเดนดรอน กล้วยด่าง บอนสีกระดาษ บอนสี ซึ่งแนวโน้มของการตลาดการซื้อขายไม้ด่าง ยังคงมีต้องการของตลาดกับผู้รักต้นไม้แปลกๆ ทำให้ราคาที่จะขยับขึ้นตลอด ยังไม่มีท่าทีจะลดลงในแต่ละพันธุ์
ด้าน นส.กาญจณา อาจปาสา คนขายไม้ประดับ เผยว่า ตนมองว่าการเรารักในการปลูกต้นไม้ประเภทไม้ด่างต่างๆ ถือว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง เริ่มจากเงินทุนก้อนเล็กๆ เราเอาต้นพันธุ์มาจากต้นเล็กๆ ต้นไม้มีการเจริญเติบโตขึ้น ทำให้เงินจากก้อนเล็กๆที่ลงทุนไปมีการงอกเงยขึ้นตามลำดับ จึงทำเป็นธุรกิจได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นอาชีพหลัก ถือว่าเป็นอาชีพเสริมในการปลูก และดูแล กลับจากทำงานหลักก็มาดูแล พอเขาเติบโตขึ้น ออกสีสวย ลายสดใส เป็นที่พอใจของตลาดก็จำหน่ายออกไปได้ จากต้นทุน 50 บาท กลายเป็น 2,000 -5,000 บางต้นออกสวยใบสวย ซื้อขายกันต้นหนึ่งเป็นหมื่นเป็นแสนก็มี ต้นไม้ที่ตนนำมาวันนี้ประเภทเสน่ห์จันทร์ประกายดาว เงินไหลมาด่างชมพู พิงค์สปอต ต้นแพงสุดอยู่ที่ ราคา 25,000 บาท
